![]() |
คุณพงศชา (โจ้) เบ็ญจพรกุลพงศ์ และคุณพิชญา (ฮันนี่) มานะธัญญา บอกว่าธุรกิจจะเติบโตต่อเนื่องมั่นคงได้ต้องประกอบด้วย “หนึ่งคือสะสมผู้คนให้มากพอ สองคือพัฒนาคนในองค์กรให้รักการเรียนรู้ พัฒนาความคิดให้มีความเป็นเจ้าของธุรกิจ และมีความเป็นผู้นำอย่างแท้จริง” นอกจากนี้คุณฮันนี่บอกว่าคือความรัก “เราต้องเปิดใจรักผู้คนให้มากขึ้นด้วยค่ะ ต้องดูแลเขาให้สำเร็จไปด้วยกัน การที่เราหวังดี มอบแววตาแห่งการให้พลังใจกับเขา ฮันนี่คิดว่าเขารับรู้ได้ค่ะ” ทุกคนพัฒนาได้ถ้ายอมเปลี่ยนแปลงและมีความอยากสำเร็จมากพอ “แต่ก็ต้องให้เกียรติการตัดสินใจของเขาด้วยครับ เราใช้วิธีส่งเสริมคนที่พร้อมโตอย่างเต็มที่ คนที่ยังไม่พร้อมก็ดูแลให้เขามีความสุขตรงจุดที่พอใจ เพราะความรักไม่ควรเป็นการบังคับให้เขาเป็นอย่างที่เราอยากให้เป็น ถึงเราจะคิดว่าสิ่งนี้ดีมากนะ แต่ถ้าเขายังไม่พร้อมก็ต้องตามนั้น หน้าที่เราคือหาคนที่พร้อมในตอนนี้มาเติมครับ (ยิ้ม)”
“ผมมองว่า ธุรกิจแอมเวย์ให้สิ่งที่ไม่เหมือนอาชีพอื่น ธุรกิจนี้ให้ทั้งเงิน เวลา และความมั่นคงพร้อมกันครับ” คุณโจ้บอก “อาชีพทั่วไปถ้าคุณได้เงินจะไม่ได้เวลา ช่วงไหนมีเวลาเยอะอาจจะไม่ได้เงิน (หัวเราะ) ถ้าได้ทั้งเงินและเวลา แต่อาจจะไม่ได้ความมั่นคง” นี่จึงเป็นอีกหนึ่งแนวคิดที่ทั้งคู่ปลูกฝังให้กับผู้คนในองค์กร “เราจะคุยกับเขาตั้งแต่แรกว่า ธุรกิจนี้ได้เงิน เวลา และความมั่นคงนะ ถ้าเขาต้องการสามสิ่งนี้จริงๆ ผมว่าเขาจะเข้าใจ เดี๋ยวนี้มีบางธุรกิจที่พูดเหมือนเราเลยว่าได้เงินด้วย ได้เวลาด้วย แต่สิ่งหนึ่งที่เขาไม่มีทางได้คือความมั่นคง” คุณโจ้บอกว่า ถ้าเข้าใจหลักการนี้ไม่ว่าจะมีสิ่งเย้ายวนมากแค่ไหนก็ไขว้เขวยาก “ถ้าเราปูพื้นฐานความคิดแบบนี้ให้ตั้งแต่ต้น ให้เขาแม่นยำว่า ธุรกิจแอมเวย์ให้ทั้งสามสิ่งนี้พร้อมกัน เขาจะไม่เขวครับ”
ติดหลุมสบาย ประโยคนี้ดูเหมือนจะเป็นหนึ่งในกับดักของความสำเร็จซึ่งทั้งคู่เองก็ต้องก้าวข้าม “ผมว่าเรื่องนี้เป็นอุปสรรคครับ” คุณโจ้บอกด้วยรอยยิ้ม “เราต้องเตือนตัวเองเสมอว่า ความสำเร็จที่ได้รับนี้ผ่านไปแล้วเพราะนั่นคือผลลัพธ์ของสิ่งที่เราทำในอดีต ดังนั้น ถ้าเราอยากได้อนาคตที่ดีก็ต้องอยู่ที่ปัจจุบัน ถ้าล้มเหลวแล้วจมกับความล้มเหลวก็ไม่ก้าวหน้า ถ้าสำเร็จแล้วติดอยู่กับความสำเร็จก็ไม่ก้าวหน้า อยู่กับปัจจุบันแล้วทำมันให้ดีครับ” สิ่งที่ทั้งคู่บอกตัวเองเสมอจึงเป็น “ต้องถามตัวเองว่าเส้นชัยของคุณอยู่จุดไหน ไปให้ถึงก่อนแล้วค่อยใช้ชีวิต ถ้ายังไม่ถึงเส้นชัยห้ามหยุด เรามักหลงลืมเรื่องพวกนี้เพราะพอมีความสุข ความสนุก ความสบาย โดยเฉพาะเสียงชื่นชมจากคนรอบข้างจะทำให้เราหลงลืมตัวได้ง่าย ต้องเตือนตัวเองตลอดว่า ทั้งหมดเป็นแค่ภาพที่ถูกสร้างขึ้น อยู่กับปัจจุบัน เริ่มต้นใหม่ทุกวัน นับหนึ่งทุกวัน”
“สิ่งที่เราจะทำต่อไปคือทำเหมือนที่เคยทำมาตลอดทุกวันค่ะ (หัวเราะ) อยากมูฟอัปก็ต้องทำงานพื้นฐาน เปิดโอกาสให้ผู้คน ดูแลให้เขาสำเร็จ เราทำทุกอย่างเหมือนดาวน์ไลน์เลยค่ะ เพราะนี่คือแนวทางสร้างธุรกิจให้เติบโตมั่นคง เป็นการเจียระไนและพัฒนาตัวเองไปสู่ความสำเร็จที่มากขึ้นค่ะ” คุณฮันนี่ยังบอกต่อว่าการอยู่ในบรรยากาศยังคงสำคัญเสมอ “การอยู่ในบรรยากาศทำให้เรามีกำลังใจ มีแรงฮึดที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้เรื่อยๆ เราบอกคนในองค์กรเสมอว่า คุณไม่ต้องเปลี่ยนเป็นคนละคนในชั่วข้ามคืน แค่เปลี่ยนวันละนิด ผ่านไปหนึ่งปีเมื่อย้อนกลับมาดูจะพบว่าคุณกลายเป็นอีกเวอร์ชันที่ดีขึ้นค่ะ” ทบทวนตัวเองอยู่เสมอเป็นคำแนะนำจากคุณโจ้ “ต้องเช็กตัวเองตลอดครับว่า ความคิดเราเหมือนคนสำเร็จที่เราอยากเป็นหรือยัง ถ้ายังต้องปรับให้เหมือน ถ้าอยากไปไกลกว่านี้ ไปถึงความสำเร็จตามเป้าหมาย คุณต้องทบทวนและปรับปรุงความคิดให้เหมือนคนสำเร็จ ไม่ต่อต้าน ความคิดเปลี่ยน ชีวิตเปลี่ยนครับ (ยิ้ม)”
สมัคร | กุมภาพันธ์ 2552 |
ระดับแพลตินัม | กุมภาพันธ์ 2555 |
ระดับทับทิม | มกราคม 2556 |
ระดับแพลตินัมสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2555 |
ระดับไพลิน | เมษายน 2556 |
ระดับไพลินสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2556 |
ระดับมรกต | สิงหาคม 2556 |
ระดับมรกตสองผู้สถาปนา | มิถุนายน 2557 |
ระดับเพชร | มีนาคม 2558 |
ระดับเพชรสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2558 |
ระดับเพชรบริหาร | สิงหาคม 2565 |
ระดับเพชรบริหารสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2565 |
ระดับเพชรคู่ | สิงหาคม 2565 |
ระดับเพชรคู่สองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2565 |
![]() |
สามคำนี้คือแนวทางการทำธุรกิจของคุณพรชัย และคุณอิงขนิษฐ (แอ๊ว) ศิรินภาพันธ์ คุณพรชัยขยายความให้ฟังว่า “ผมเน้นเรื่องการเปิดโอกาสให้ผู้คน ซึ่งเป็นไปตามอุดมการณ์ของธุรกิจแอมเวย์ที่มุ่งให้โอกาสผู้คนได้มีธุรกิจเป็นของตัวเอง เมื่อเราเปิดและเขารับโอกาสนั้นแล้ว สิ่งต่อมาคือสอนให้เขาทำเป็นและยืนอยู่ได้ด้วยขาของตัวเอง สุดท้ายคือทำให้เขาไปเปิดโอกาสและถ่ายทอดความเป็นผู้นำในธุรกิจนี้ให้กับผู้อื่นได้ต่อไปครับ”
ย้อนกลับไปราว 30 ปีก่อน ในตอนนั้นคุณพรชัยรับราชการในตำแหน่งวิศวกรได้พบกับธุรกิจแอมเวย์ ทั้งที่ธุรกิจเพิ่งเปิดตัวในประเทศไทยแต่คุณพรชัยก็เห็นโอกาส “ผมมองว่าธุรกิจนี้มีแนวคิดที่ดี ต้องการให้ผู้คนสร้างฝันของตัวเองให้เป็นจริง คุณอยากมีรายได้มากแค่ไหน ธุรกิจนี้สามารถให้ได้ไม่จำกัด พอดูแผนการตลาดแล้วก็เห็นว่า ถ้าตั้งใจทำไปเรื่อยๆ มีแต่โตกับโต ผมเชื่อมั่นในแนวทางธุรกิจ บริษัท และสินค้าเลยตัดสินใจทำครับ” สิ่งหนึ่งที่ทำให้ทั้งคู่เติบโตในธุรกิจมาอย่างต่อเนื่องก็คือ ความเชื่อ คุณแอ๊วเล่าว่า “ต้องยอมรับว่าตอนทำธุรกิจแรกๆ รายได้ยังไม่เยอะค่ะ แต่เรามองว่านี่คือการลงทุน คือการทำเพื่ออนาคต และเห็นความเป็นไปได้ในการเติบโตซึ่งจะนำไปสู่อิสรภาพที่มั่นคงได้ค่ะ”
คุณพรชัยเล่าว่า “ในยุคเริ่มต้น ต้นแบบคนสำเร็จยังมีน้อยการให้ความรู้ก็ยังไม่ค่อยสะดวก ถึงจะมีคนเข้ามามากแต่โอกาสที่คนจะไปต่อก็มีน้อยครับ ต่างจากสมัยนี้ที่ทุกอย่างสะดวก ทั้งยังหาข้อมูลได้ง่ายและมีเยอะ แต่บางทีข้อมูลที่มากเกินไปก็อาจทำให้บางคนกลายเป็นขี้เกียจเรียน (ยิ้ม) ดังนั้นนอกจากข้อมูลแล้ว ผมมองว่าต้นแบบสำคัญมากครับ” นี่คือเหตุผลที่ทำให้ทั้งคู่ยังคงเดินหน้าถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ให้ผู้คนในองค์กรด้วยตนเอง “เราเชื่อว่าทุกคนมีความมุ่งมั่น ดังนั้น เราจะทิ้งเขาไม่ได้ ทุกวันนี้ที่เราทำควบคู่กันไปคือการดูแลน้องๆ ในองค์กรให้พัฒนาเติบโต และตัวเราเองก็ต้องพัฒนาเติบโตไปด้วยกัน การเติบโตของเราในวันนี้เป็นความท้าทาย ความภาคภูมิใจ และเป็นต้นแบบให้องค์กรได้เห็นว่า ธุรกิจนี้เติบโตต่อไปได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดครับ”
“ทุกวันนี้คนรู้จักธุรกิจแอมเวย์มากขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่คนมักพูดกันคือกลัวทำไม่สำเร็จ นี่ทำให้เขาปิดโอกาสตัวเองครับ” คุณพรชัยบอก “อันดับแรกเราต้องพยายามให้ข้อมูลว่านี่คือธุรกิจ ซึ่งเมื่อเป็นธุรกิจก็ต้องมีทั้งคนสำเร็จและไม่สำเร็จด้วยเงื่อนไขต่างๆ แต่ถ้าคุณทำธุรกิจสักธุรกิจหนึ่ง คุณจะเลือกมองคนที่สำเร็จหรือคนที่ไม่สำเร็จล่ะ (ยิ้ม) อันนี้อยู่ที่มุมมองของคุณแล้ว ถ้าคุณดูคนที่ไม่สำเร็จแล้วกลัว คุณก็ไม่ต้องทำอะไรแล้ว แต่ถ้าคุณดูคนสำเร็จในธุรกิจนี้ คุณก็จะรู้ว่ามีความเป็นไปได้ที่คุณจะสำเร็จได้เหมือนกัน จากนั้นเราก็ให้ข้อมูลเพื่อสร้างความเชื่อมั่น สร้างแรงจูงใจ ทำให้เกิดความท้าทายครับ”
“ธุรกิจแอมเวย์จะเติบโตอย่างยั่งยืนได้ เราต้องสร้างผู้นำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ” คุณแอ๊วบอก “เพราะทั้งตัวธุรกิจ บริษัท และสินค้านั้นดีอยู่แล้ว เราต้องพยายามสร้างผู้นำรุ่นใหม่ขึ้นมาเรื่อยๆ ธุรกิจก็จะเติบโตต่อเนื่องค่ะ” คุณพรชัยบอกว่า “ฝันใหญ่เป็นเรื่องสำคัญนะครับ ถ้าคุณฝันใหญ่ก็จะมีเรี่ยวแรงต่อสู้กับสิ่งต่างๆ ได้ ถ้าฝันเล็กพอเจอปัญหานิดเดียวก็ท้อก็เลิก ฝันให้ใหญ่ มองไปข้างหน้าให้ไกล และต้องเชื่อว่าเราทำได้ นักรบที่ลังเลท้อแท้ เขาแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้รบครับ เมื่อเป็นนักรบ ลงสนามแล้วต้องมั่นใจว่าจะชนะ เช่นเดียวกันเมื่อลงสู่สนามธุรกิจนี้ ต้องมั่นใจว่าคุณจะชนะ ถ้าคุณเชื่อเช่นนั้น คุณก็จะได้รับชัยชนะแน่นอนครับ”
สมัคร | พฤศจิกายน 2530 |
ระดับแพลตินัม | กุมภาพันธ์ 2532 |
ระดับทับทิม | กรกฎาคม 2532 |
ระดับแพลตินัมสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2534 |
ระดับไพลิน | กุมภาพันธ์ 2534 |
ระดับไพลินสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2534 |
ระดับมรกต | กุมภาพันธ์ 2536 |
ระดับมรกตสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2537 |
ระดับเพชร | มิถุนายน 2540 |
ระดับเพชรสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2550 |
ระดับเพชรบริหาร | สิงหาคม 2558 |
ระดับเพชรบริหารสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2565 |
![]() |
คุณวิรุฬ (อ้วน) โตศะศุข และคุณพนมพร (ปุ๋ม) โลหะสุนทร บอกถึงแนวทางสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนว่า “เราทำธุรกิจนี้เพราะอยากได้ผลลัพธ์ที่ไร้กังวล จึงเน้นการสร้างยอดธุรกิจที่เกิดจากการซื้อซ้ำจริง ซึ่งนั่นแปลว่าลูกค้าต้องประทับใจสินค้า ไม่ใช่ซื้อเพราะความเกรงใจเพราะถูกยัดเยียด เรื่องที่เราปลูกฝังคนในองค์กรคือการสร้างยอดที่เกิดจากลูกค้าประจำ และพัฒนาผู้นำให้สร้างธุรกิจเป็นครับ” เพราะต้องการตัวจริงทั้งลูกค้าและผู้นำ ทั้งคู่จึงมีวิถีที่ยึดมั่น “เราไม่เร่งรัดใครให้ตัดสินใจครับ หน้าที่เราคือให้ข้อมูลเขาให้มากพอจนเกิดการตัดสินใจ แน่นอนว่าเราก็มีเป้าหมายในการสร้างธุรกิจของเราเองจึงมุ่งมั่นทำงานให้เยอะเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายที่อยากได้ เราให้เวลากับทั้งผู้นำและลูกค้า แต่เราเร่งรัดกับตัวเองครับ (ยิ้ม)”
“ยุคนี้เป็นยุคของความหลากหลายครับ” คุณอ้วนบอก “สินค้ามีความหลากหลาย ผู้บริโภคมีความจงรักภักดีต่อแบรนด์น้อยลงเพราะอยากลองของใหม่ แต่ความโชคดีคือสินค้าแอมเวย์มีความโดดเด่น สุดท้ายลูกค้าก็จะกลับมาตราบเท่าที่เขามีความรู้สึกที่ดี มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเรา เรื่องนี้เราจึงไม่ค่อยห่วงครับ” สำหรับแนวทางการเปิดโอกาสทางธุรกิจที่ทั้งคู่ใช้มาตลอดคือ “ต้องไม่โจมตีหรือต่อต้านสิ่งที่เขาเชื่อ เราแค่บอกข้อดีของเราและชี้ให้เขาเห็นว่า เราไปเติมเต็มไม่ได้ไปแทนที่ ด้วยความที่ธุรกิจแอมเวย์ออกแบบมาให้ทำคู่กับทุกอย่างได้อยู่แล้ว มีธุรกิจเพิ่มอีกอย่าง เพิ่มรายได้อีกกระเป๋าก็ไม่น่ามีอะไรเสียหาย” คุณปุ๋มเสริมว่า “เราเชื่อมั่นว่า ธุรกิจนี้คือโอกาสที่ดีมาก ถ้าทำให้เขาเปิดใจมาร่วมธุรกิจได้ ปุ๋มเชื่อว่าวันหนึ่งเขาจะรู้และเลือกได้เองว่า สิ่งที่เขาทำอยู่เมื่อเทียบกับธุรกิจแอมเวย์ อะไรเป็นสิ่งที่เขาควรฝากอนาคตฝากชีวิตไว้ค่ะ (ยิ้ม)”
“ทุกวันนี้ทำธุรกิจแอมเวย์ได้ง่ายขึ้นมากค่ะ แค่มีโทรศัพท์มือถือ มีแล็ปท็อปก็ทำธุรกิจได้ซึ่งนี่ถือเป็นข้อดี แต่ข้อเสียคือเครื่องมือที่มีมันพร้อมจะดึงสมาธิคุณอยู่ตลอด ดูซีรีส์แป๊บ เข้าโซเชียลเดี๋ยว แค่หนึ่งชั่วโมงที่หลุดไปนั้นทำให้เราหลุดไปไกลได้แบบยาวๆ เลย อยู่ที่เราจะควบคุมสติได้หรือเปล่า ดังนั้นต้องมีสติในการจัดการตัวเองเพื่อให้เรายังอยู่ในลู่ที่เดินไปสู่เป้าหมายและไปถึงความสำเร็จได้ค่ะ” คุณปุ๋มบอกพร้อมเพิ่มเติมว่า “อย่าลืมว่าเราทุกคนมีเครื่องมือเหมือนกับคนที่เป็นมงกุฎทูตเลย (ยิ้ม) เราอยู่ในธุรกิจแอมเวย์เหมือนกัน มีโทรศัพท์มือถือ มีแล็ปท็อป เล่นโซเชียลมีเดียเจ้าเดียวกัน แต่เราจะใช้สิ่งเหล่านี้ไปสู่ความสำเร็จได้เหมือนกันไหมต้องใช้สติเป็นตัวควบคุมค่ะ”
เป้าหมายคือสิ่งสำคัญที่เป็นแรงผลักดันในการขับเคลื่อนธุรกิจ ไม่ใช่แค่เป้าหมายของตัวเองที่ทั้งคู่ใส่ใจ แต่รวมถึงเป้าหมายของคนในองค์กรด้วย “เราเอาเป้าหมายของเขาเป็นตัวตั้งค่ะ เขาอยากได้อะไร อยากทำอะไร อยากมีชีวิตแบบไหน จากนั้นเราจะทำหน้าที่โคช เป็นที่ปรึกษา เคลียร์ข้อสงสัยให้กระจ่าง สุดท้ายเขาจะเป็นผู้เลือกและสร้างเส้นทางของตัวเอง” คุณปุ๋มบอกแนวทางการดูแลผู้คนในองค์กร คุณอ้วนเสริมว่า “ในธุรกิจนี้เรามีโคชช่วยมองภาพรวมครับ ต้องปรึกษากับโคชหรืออัพไลน์ตลอดเพื่อปรับจูนธุรกิจให้อยู่ในทิศทางที่ถูกต้อง และยุคนี้เป็นยุคของมืออาชีพ อยากสร้างธุรกิจให้แข็งแรงเติบโตก็ต้องเรียนรู้และเข้าใจคอนเซปต์ของธุรกิจให้ชัดเจน นอกจากนั้นต้องคุยกับตัวเองให้จบว่า คุณต้องการอะไรในชีวิต แล้วใช้ธุรกิจนี้เป็นเครื่องมือพาคุณไปสู่เป้าหมาย” ทุกย่างก้าวในธุรกิจคือความสนุกและความท้าทายที่เพิ่มมากขึ้นสำหรับทั้งคู่ “เราสนุกกับการทำธุรกิจมากและอยากไปให้ถึงจุดสูงสุด วางแผนไว้ว่าธุรกิจต้องแข็งแรงขึ้นทุกปี คนในองค์กรต้องเติบโตมั่นคงขึ้น เราจะเติบโตไปด้วยกัน ใส่ใจในทุกก้าว โฟกัสแล้วก้าวไปด้วยกันทีละสเต็ปอย่างมั่นคงครับ”
สมัคร | กุมภาพันธ์ 2543 |
ระดับแพลตินัม | กรกฎาคม 2544 |
ระดับทับทิม | สิงหาคม 2551 |
ระดับแพลตินัมสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2546 |
ระดับไพลิน | มีนาคม 2546 |
ระดับไพลินสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2558 |
ระดับมรกต | สิงหาคม 2547 |
ระดับมรกตสองผู้สถาปนา | มิถุนายน 2560 |
ระดับเพชร | สิงหาคม 2559 |
ระดับเพชรสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2562 |
ระดับเพชรบริหาร | สิงหาคม 2562 |
ระดับเพชรบริหารสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2565 |
![]() |
คุณหนึ่งฤทัย (แนน) ตังพิริยะพงศ์ และคุณกษิดิศ (ไอซ์) ทิพยทัศนัน บอกว่าการทำธุรกิจแอมเวย์ในวันนี้อาจเรียกได้ว่า อยู่ในช่วงของการเขย่าให้เข้าที่ “เราโฟกัสการลงไปทำงานกับองค์กรในหลายๆ จุด เพื่อให้เกิดการมูฟอัปมากขึ้นค่ะ” คุณแนนอธิบายต่อว่า “เพราะตอนนี้เป็นรอยต่อของช่วงโควิดและหลังโควิด ตอนเกิดโควิดคนโฟกัสกับการเรียนรู้ออนไลน์ได้ค่อนข้างดีเพราะอยู่บ้านตลอด แต่ตอนนี้เป็นช่วงหลังโควิด คนเริ่มออกไปทำงานประจำบ้าง ใช้ชีวิตข้างนอกบ้าง การโฟกัสหรือการเรียนรู้ทางออนไลน์อาจจะน้อยลง ดังนั้น เราก็จะเริ่มปรับให้ทำออนไซต์มากขึ้นค่ะ” คุณไอซ์บอกว่าการทำธุรกิจทั้งสองรูปแบบนั้นมีข้อดีที่แตกต่าง “ผมมองว่าออนไลน์ดีสำหรับการให้ความรู้พื้นฐาน ส่วนออนไซต์จะได้บรรยากาศ การได้มาเจอกันจะทำให้เกิดสายสัมพันธ์และความไว้เนื้อเชื่อใจกัน เหมือนดูคอนเสิร์ต เราซ้อมร้องทางออนไลน์ก่อน แต่พอวันแสดงจริงเราก็อยากไปดูสด เพราะมันได้บรรยากาศมากกว่าครับ (หัวเราะ)”
แนวทางการทำธุรกิจคือเริ่มต้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์ จากนั้นจึงนำเข้าสู่การเปิดโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งทั้งคู่บอกว่า นี่เป็นแนวทางที่ได้ผลดีและทำให้ไม่เกิดปัญหาเรื่องความไม่น่าเชื่อถือหรือไม่ไว้วางใจ “จุดแข็งของเราคือเรื่องการดูแลลูกค้าค่ะ เราจึงตั้งใจปลูกฝังสิ่งนี้ในองค์กร เน้นการสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างเรากับลูกค้า ไม่ใช่แค่การซื้อมาขายไป แต่คือการดูแลกันเหมือนคนในครอบครัว เมื่อลูกค้าประทับใจผลิตภัณฑ์ ประทับใจในการดูแลของเรา การต่อยอดทางธุรกิจก็จะมีความเป็นไปได้สูงค่ะ” คุณแนนบอก คุณไอซ์เสริมต่อว่าการดูแลผู้คนในองค์กรก็เช่นกัน “เราดูแลคนในองค์กรโดยนึกถึงตัวเราในวันแรกครับ อัพไลน์ดูแลเราดีมากยังไง เราก็ดูแลคนในองค์กรอย่างนั้น ที่จริงเราเองก็เคยผ่านประสบการณ์ที่เคยเร่งรัดคนอื่นมาแล้ว แต่พอวันนี้เราเติบโตขึ้น เข้าใจผู้คนมากขึ้น ก็นำข้อดีข้อเสียมาปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้การทำธุรกิจอยู่ในจุดที่มีความสมดุลครับ”
ไปข้างหน้าแบบไม่ทิ้งคนข้างหลัง คือหนึ่งในแนวทางการสร้างธุรกิจให้มั่นคง คุณแนนอธิบายว่า “ถ้าเราโฟกัสแค่คนที่มีเป้าหมาย สุดท้ายคนที่เขายังไม่ตัดสินใจจะหายไป ดังนั้น มือหนึ่งเราจับคนที่มีเป้าหมายแต่มืออีกข้างก็ต้องประคองคนที่ยังไม่ตัดสินใจ พาเขาไปด้วยกัน ให้เขาอยู่ในบรรยากาศ เพราะเราเชื่อว่าสุดท้ายเขาจะกลายเป็นคนที่มีเป้าหมายเหมือนกัน พูดให้เห็นภาพคือ คนไหนมีไฟเราก็พัดให้ลุกโชน คนไหนไฟยังไม่ติดหรือไฟกำลังจะมอดเราก็เติมฟืน ด้วยความเชื่อว่า วันหนึ่งไฟของเขาจะต้องลุกและเรารอวันนั้นได้ แนวทางนี้ทำให้เราเติบโตได้ต่อเนื่องเพราะเราไม่ทิ้งใคร ทำให้ทุกคนมีส่วนร่วม แล้วพลังนี้จะโน้มนำซึ่งกันและกันค่ะ (ยิ้ม)”
“แนนอยากให้ทุกคนที่เจอธุรกิจนี้แล้ว ตัดสินใจ และรีบสร้าง อย่างเราสองคนเริ่มต้นลงมือทำอย่างจริงจังและระหว่างทางเราทำตัวให้เบาที่สุด ไม่พยายามสร้างภาระหรือเงื่อนไขที่จะกระทบต่อการทำธุรกิจ รีบสร้างธุรกิจให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งใจ เพราะเราคิดว่าถ้าสร้างไปใช้ชีวิตไปจะมีโอกาสติดหลุมสบาย และยากที่จะเอาตัวเองออกมาจากตรงนั้น เมื่อเจอแล้ว ตัดสินใจ ลุยม้วนเดียวจบ จากนั้นค่อยใช้ชีวิต แนนคิดว่าแบบนี้จะเติบโตได้อย่างมั่นคงกว่าค่ะ” เบาในเงื่อนไขที่จะเป็นภาระกับการสร้างธุรกิจ แต่หนักแน่นกับเป้าหมายที่จะไปให้ถึง คุณไอซ์ปิดท้าย “เราต้องรู้ว่าทำธุรกิจนี้ไปเพื่ออะไร เมื่อก่อนตอนจะเป็นเพชร เราสู้เพื่อตัวเอง แต่ทุกวันนี้เป้าหมายเปลี่ยนไป ความสุขของเราคือการได้ช่วยคนในองค์กรเป็นหลัก ยิ่งเรามีลูก ยิ่งมีความตั้งใจที่จะสร้างธุรกิจให้มั่นคงแข็งแรง เพราะเป้าหมายเราเพิ่ม เราไม่ได้แค่อยากให้คนในองค์กรมีชีวิตที่ดีเหมือนเรา แต่อยากให้ลูกๆ ของพวกเขาได้มีชีวิตที่ดีเหมือนลูกของเราด้วยครับ”
สมัคร | ธันวาคม 2555 |
ระดับแพลตินัม | ตุลาคม 2558 |
ระดับทับทิม | สิงหาคม 2558 |
ระดับแพลตินัมสองผู้สถาปนา | มิถุนายน 2559 |
ระดับไพลิน | มิถุนายน 2559 |
ระดับไพลินสองผู้สถาปนา | มิถุนายน 2560 |
ระดับมรกต | สิงหาคม 2559 |
ระดับมรกตสองผู้สถาปนา | มิถุนายน 2560 |
ระดับเพชร | มีนาคม 2561 |
ระดับเพชรสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2564 |
ระดับเพชรบริหาร | สิงหาคม 2564 |
ระดับเพชรบริหารสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2565 |
![]() |